วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นิราศนรินทร์คำโคลง




นิราศนริทร์คำโคลง  เป็นนิราศที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่งในสมัยรัตนโกสินทร์  มีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การกล่าวคร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รัก  ด้วยสำนวนโวหารอันไพเราะและมีคุณค่าในด้านวรรณศิลป์  นิราศนริทร์จึงได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของนิราศคำโคลง
ผู้แต่ง
นรินทรธิเบศร์ (อิน)
ลักษณะคำประพันธ์
ร่ายสุภาพ  จำนวน 1 บท  และโคลงสี่สุภาพ  143 บท
จุดมุ่งหมายในการแต่งคร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รัก
ความเป็นมา
นิราศ  เป็นงานประพันธ์ประเภทหนึ่งของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
เท่าที่ปรากฏหลักฐานในปัจจุบัน  นิราศเรื่องแรกของไทยนั้น  ได้แก่
โคลงนิราศหริภุญชัย  ซึ่งแต่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา  เนื้อหานิราศโดยทั่วไปมักเป็น
การคร่ำครวญของกวี (ชาย) ต่อสตรีอันเป็นที่รัก  เนื่องจากต้องพลัดพรากจากนางมาไกล
ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุใดก็ตาม  สำหรับนิราศนรินทร์คำโคลง  มีลักษณะเป็นนิราศแท้
คือ  มีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การคร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รักที่กวีจากมา
ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เป็นเพียงส่วนประกอบและเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า
นิราศนรินทร์คำโคลงเป็นนิราศที่มีความไพเราะมากเรื่องหนึ่งของไทย
                                                              อยุธยายศล่มแล้ว               ลอยสวรรค์ ลงฤา
                                                         สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร-         เจิดหล้า
                                                         บุญเพรงพระหากสรรค์             ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
                                                         บุญเพรงพระหากสรรค์             ฝึกฟื้นใจเมือง
                                                         เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น               พันแสง
                                                         รินรสพระธรรมแสดง                ค่ำเช้า
                                                         เจดีย์ระดะแซง                       เสียดยอด
                                                         ยลยิ่งแสงแก้วเก้า                  แก่นหล้าหลากสวรรค์
                                                         เอียงอกเทออกอ้าง                อวดองค์ อรเอย
                                                         เมรุชุบสมุทรดินลง                 เลยแต้ม
                                                         อากาศจักจารผจง                  จารึก พอฤา
                                                         โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม              อยู่ร้อนฤาเห็น
เรื่องย่อ
          นายนรินทรธิเบศร์ (อิน)  แต่งนิราศเรื่องนี้ขึ้นเมื่อตามเสด็จกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์เสด็จยกทัพหลวงไปปราบพม่าซึ่งยกลงมาที่เมืองถลางและชุมพร  โดยเริ่มเรื่องด้วยร่ายสุภาพยอพระเกียรติพระมหากษัตริย์  แล้วกล่าวถึง  ความเจริญของบ้านเมือง  จากนั้นจึงรำพันถึงการจากนางอันเป็นที่รักและพรรณนาสถานที่ที่ผ่านไป
          นายนรินทรธิเบศร์ (อิน)  ได้ออกเดินทางเริ่มต้นจากคลองขุดผ่านวัดแจ้ง  คลองบางกอก (ใหญ่)  วัดหงส์  วัดสังข์กระจาย  บางยี่เรือ (คลอง) ด่านนางนอง บางขุนเทียน บางบอน บางหัวกระบือ โคกขาม คลองโคกเต่า มหาชัย ท่าจีน บ้านบ่อ นาขวาง คลองสามสิบสองคด คลองย่านซื่อ แม่กลองปากน้ำ (ออกทะเล) บ้านแหลม คุ้งคดอ้อย เพชรบุรี ชะอำ ห้วยขมิ้น ท่าข้าม เมืองปราณ (บุรี) สามร้อยยอด ทุ่งโคแดง (ทุ่งวัดแดง) อ่าวนางรม (อ่าวประจวบ) บางสะพาน ขามสาวบ่าว อู่แห้ง เขาหมอนเจ้า โพสลับ ลับยักษ์ เมืองแม่น้ำ อู่สะเภา หนองบัว แก่งตุ่ม แก่งคุลาตีอก แก่งแก้ว (แก่งแก้วสงสาร) แก่งนางครวญ ปากน้ำ (ร่วม) เขาเพชร จนถึงตระนาว (ตะนาวศรี) เป็นที่หมายปลายทาง
เนื้อเรื่องนิราศนริทร์

                    1. ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์  จรรโลงโลกกว่ากว้าง  แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ  ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า  แจกแสงจ้าเจิดจันทร์  เพียงรพิพรรณผ่องด้าว  ขุนหาญท้าวแหนบาท  สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน  ส่วนเศิกเหลี้ยนล่งหล้า  ราญราบหน้าเกริน  เข็ญข่าวยินยอบตัว  ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว  ทุกไทน้าวมาลย์น้อม  ขอออกอ้อมมาอ่อน  ผ่อนแผ่นดินให้ผาย  ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว  เลี้ยงทแกล้วให้กล้า  พระยศไท้เทิดฟ้า  เฟื่องฟุ้งทศธรรม  ท่านแฮ
                    2.          อยุธยายศล่มแล้ว                    ลอยสวรรค์ ลงฤา
                    สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร-                      เจิดหล้า
                    บุญเพรงพระหากสรรค์                          ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
                    บุญเพรงพระหากสรรค์                          ฝึกฟื้นใจเมือง1
                    3.           เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น              พันแสง
                    รินรสพระธรรมแสดง                              ค่ำเช้า
                    เจดีย์ระดะแซง                                      เสียดยอด
                    ยลยิ่งแสงแก้วเก้า                                 แก่นหล้าหลากสวรรค์2
                    4.          โบสถ์ระเบียงมณฑปฟื้น          ไพหาร
                    ธรรมาสน์ศาลาลาน                               พระแผ้ว
                    หอไตรระฆังขาน                                   ภายค่ำ
                    ไขประทีปโคมแก้ว                               ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์
                    8.          จำใจจากแม่เปลื้อง                 ปลิดอก อรเอย
                    เยียวว่าแดเดียวยก                               แยกได้
                    สองซีกแล่งทรวงตก                            แตกภาค  ออกแม่
                    ภาคพี่ไปหนึ่งไว้                                   แนบเนื้อนวลถนอม
                    10.          โฉมควรจักฝากฟ้า                ฤาดิน ดีฤา
                    เกรงเทพไท้ธรณินทร์                           ลอบกล้ำ
                    ฝากลมเลื่อนโฉมบิน                            บนเล่า  นะแม่
                    ลมจะชายชักช้ำ                                  ชอกเนื้อเรียมสงวน3
                    11.          ฝากอุมาสมรแม่แล้             ลักษมี  เล่านา
                    ทราบสวยภูวจักรี                               เกลือกใกล้
                    เรียมคิดจนจบตรี                               โลกล่วง  แล้วแม่
                    โฉมฝากใจแม่ได้                               ยิ่งด้วยใครครอง
                    22.          จากมามาลิ่วล้ำ                 ลำบาง
                    บางยี่เรือราพลาง                              พี่พร้อง
                    เรือแผงช่วยพานาง                           เมียงม่าน  มานา
                    บางบ่รับคำคล้อง                             คล่าวน้ำตาคลอ4
                    37.          บ้านบ่อน้ำบกแห้ง            ไป่เห็น
                    บ่อเนตรคงขังเป็น                             เลือดไล้
                    อ้าโฉมแม่แบบเบญ-                        จลักษณ์  เรียมเอย
                    มาซับอัสสุชลให้                              พี่แล้วจักลา
                    41.          เห็นจากจากแจกก้าน       แกมระกำ
                    ถนัดระกำกรรมจำ                             จากช้า
                    บาปใดที่โททำ                                แทนเท่า  ราแม่
                    จากแต่คาบนี้หน้า                            พี่น้องคงถนอม
                    45.          ชมแขคิดใช่หน้า              นวลนาง
                    เดือนตำหนิวงกลาง                         ต่ายแต้ม
                    พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง                   จักเปรียบ  ใดเลย
                    ขำกว่าแขไขแย้ม                            ยิ่งยิ้มอัปสร
                    118.          ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำ    สงสาร  อรเอย
                    จรศึกโศกมานาน                             เนิ่นช้า
                    เดินดงท่งทางละหาน                      หิมเวศ
                    สารสั่งทุกหย่อมหญ้า                      ย่านน้ำลานาง
                    122.          พันเนตรภูวนาถตั้ง          ตาระวัง  ใดฮา
                    พักตร์สี่แปดโสตฟัง                          อื่นอื้อ
                    กฤษณนิทรเลอหลัง                        นาคหลับ  ฤาพ่อ
                    สองพิโยคร่ำรื้อ                                เทพท้าวทำเมิน
                    134.          นทีสี่สมุทรม้วย             หมดสาย
                    ติมิงคล์มังกรนาคผาย                      ผาดส้อน
                    หยาดเหมพิรุณหาย                         เหือดโลก  แล้งแม่
                    แรมราคแสนร้อยร้อน                       ฤเถ้า  เรียมทน
                    138.          ลมพัดคือพิษต้อง          ตากทรวง
                    หนาวอกรุมในดวง                          จิตช้ำ
                    โฉมแม่พิมลพวง                             มาเลศ  กูเอย
                    มือแม่วีเดียวล้ำ                              ยิ่งล้ำลมพาน
                    139.          เอียงอกเทออกอ้าง     อวดองค์ อรเอย
                    เมรุชุบสมุทรดินลง                        เลขแต้ม
                    อากาศจักจารผจง                         จารึก พอฤา
                    โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม                      อยู่ร้อนฤาเห็น5
                    140.          ตราบขุนคิริข้น             ขาดสลาย  แลแม่
                    รักบ่หายตราบหาย                        หกฟ้า
                    สุริยจันทรขจาย                            จากโลก  ไปฤา
                    ไฟแล่นล้างสี่หล้า                          ห่อนล้างอาลัย
                    141.          ร่ำรักร่ำเรื่องร้าง          แรมนวล  นาฏฤา
                    เสนาะสนั่นดินครวญ                      ครุ่นฟ้า
                    สารสั่งพี่กำสรวล                          แสนเสน่ห์  นุชเอย
                    ควรแม่ไว้ต่างหน้า                        พี่พู้นภายหลัง

คำศัพท์นิราศนริทร์คำโคลง                    1.  ศรีสิทธิ์พิศาลภพ  เลอหล้าลบล่มสวรรค์  จรรโลงโลกกว่ากว้าง  แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า  แจกแสงจ้าเจิดจันทร์  เพียงรพิพรรณผ่องด้าว  ขุนหาญห้าวแหนบาท  สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน  ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า  ราญราบหน้าเภริน  เข็ญข่าวยินยอบตัว  ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว  ทุกไทน้าวมาลย์น้อม  ขอออกอ้อมมาอ่อน  ผ่อนแผ่นดินให้ผาย  ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว  เลี้ยงทแกล้วให้กล้า  พระยศไทเทิดฟ้า  เฟื่องฟุ้งทศธรรม  ท่านแฮ
           บ้านเมืองสงบสุขเพราะบุญมารมีของพระมหากษัริย์  กรุงเทพ ฯ (ศรีอยุธยเยนทร์  เป็นสร้อยนามของกรุงเทพ ฯ)  เป็นเมืองที่กว้างใหญ่สวยงามกว่าเมืองใดในโลกจนชนะเมืองสวรรค์ได้  พระมหากษัตริย์ทรงผดุงแผ่นดินนี้ให้กว้างขวางราวเมืองสวรรค์  กรุงเทพ ฯ งามรุ่งเรืองในท้องฟ้า  สว่างกว่าแสงจันทร์  สว่างราวแสงอาทิตย์ที่ส่องโลก  พระมหากษัตริย์มีแม่ทัพกล้าหาญ  พระองค์ทรงขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร  ทรงปราบศัตรูได้ราบคาบ  พระเดชานุภาพเป็นที่เลื่องลือยำเกรง  พระเจ้าแผ่นดินเมืองอื่น ๆ พากันนอบน้อมขอเป็นเมืองขึ้น  พระองค์ทรงขยายอาณาเขต  ทรงบำรุงทหารให้กล้าแข็งทรงดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรมเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยพระบุญญาธิการ
คำศัพท์
          ศรีสิทธิ์                              ขออำนาจความเป็นสิริมงคล  นิยมใช้ขึ้นต้นบทเพื่อขอให้สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนั้นสำเร็จดังปรารถนา
          ลบล่มสวรรค์                      สวยงามกว่าเมืองสวรรค์,  ชนะเมืองสวรรค์
          ผ้าง                                    ราวกับ
          เมืองเมรุ                            สวรรค์ชั้นดาวดึงส์  อยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ
          ศรีอยุธเยนทร์                    กรุงเทพฯ
          ด้าว                                   โลก
          เพียรพิพรรณผ่องด้าว         ราวกับแสงอาทิตย์ส่องโลก
          ขุนหาญ                             แม่ทัพที่กล้าหาญ
          แหนบาท                           ฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน
          สระทุกข์                            ขจัดทุกข์
          รอนเสี้ยน                           ขจัดศัตรู
          ส่ายเศิก                             กวาดล้างข้าศึก
          เหลี้ยนล่ง                          เตียนโล่ง
          ราบหน้าเภริน                    ราบเป็นหน้ากอง
          เข็ญข่าวยิน                      ได้ฟังข่าวที่น่ากลัว
          ขอออก                             ขอเป็นเมืองขึ้น
          อ้อมมาอ่อน                      พยายามมาอ่อนน้อม
          แผ้ว                                 ทำให้ปราศจากศัตรู "ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว"
                                                  เป็นความเปรียบ  หมายถึง  ขยายอำนาจไปถึงสวรรค์
          ทศธรรม                           ทศพิธราชธรรม  หมายถึง  ธรรม 10 ประการของพระเจ้าแผ่นดิน  ได้แก่  ทาน ศีล บริจาค
                                                  ความซื่อตรง ความอ่อนโยน การข่มกิเลส ความไม่โกรธ ความไม่เบียดเบียน ความอดทน
                                                  และความไม่ผิดจากธรรม
                    2.  อยุธยายศล่มแล้ว              ลอยสวรรค์ ลงฤา
                    สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร-         เจิดหล้า
                    บุญเพรงพระหากสรรค์             ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
                    บุญเพรงพระหากสรรค์             ฝึกฟื้นใจเมือง
                     กรุงศรีอยุธยาล่มสลายไปแล้ว  กลับลอยลงมาจากสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง  นั่นคือกรุงเทพมหานคร  พระราชอาสน์  พระปรางค์  ประดับประดาด้วยแก้วมณีงามเด่นในโลก  เป็นเพราะผลบุญพระมหากษัตริย์ได้ทรงกระทำไว้แต่เก่าก่อน  พระพุทธศาสนาจึงได้เจริญรุ่งเรือง  ช่วยปิดทางแห่งความชั่ว  เปิดทางสู่ความดีงาม  ฟื้นฟูจิตใจราษฎรให้พ้นจากความงมงายในบาปต่าง ๆ
คำศัพท์
          สิงหาสน์                      ราชอาสน์หรือที่ประทับของพระราชา  มีลักษณะเป็นรูปจำลองของราชสีห์
          บุญเพรง                      บุญเก่า
          บังอบาย                      ปิดทางไปสู่ความชั่ว
          เบิกฟ้า                         เปิดทางไปสู่ความดี
          ฝึกฟื้นใจเมือง              ฟื้นฟูจิตใจชาวเมืองให้พ้นจากความทุกข์

                    3.  เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น         พันแสง
                    รินรสพระธรรมแสดง               ค่ำเช้า
                    เจดีย์ระดะแซง                       เสียดยอด
                    ยลยิ่งแสงแก้วเก้า                  แก่นหล้าหลากสวรรค์
                                                
                    พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าแสงอาทิตย์  ประชาชนฟังธรรมะด้วยความซาบซึ้งใจทุกเช้าค่ำ  เจดีย์มากมายสูงเสียดฟ้า  แลดูเห็นแสงแวววาวยิ่งกว่าแสงจากแก้ว 9 ประการ  เป็นความงามที่โดดเด่นในโลก  พระพุทธศาสนาเป็นหลักของโลก  จนทำให้เป็นที่มหัศจรรย์แก่สวรรค์
คำศัพท์
          พันแสง                       มีแสงนับพัน  หมายถึง  พระอาทิตย์ผู้มีนามว่า  สหัสรังสี
          แก้วเก้า                      แก้วเก้าประการ  หรือที่เรียกว่า  นพรัตน์, นวรัตน์  ได้แก่  เพชร  ทับทิม  มรกต  บุษราคัม  โกเมน
                                             นิล  มุกดา  เพทาย  และไพฑูรย์
          แก่นหล้า                     เป็นหลักของโลก  หมายความว่า  งามเป็นจุดเด่นของแผ่นดิน
          หลากสวรรค์               เป็นที่อัศจรรย์ใจของเทวดาบนสวรรค์
                    4.  โบสถ์ระเบียงมณฑปฟื้น      ไพหาร
                    ธรรมาสน์ศาลาลาน                    พระแผ้ว
                    หอไตรระฆังขาน                        ภายค่ำ
                    ไขประทีปโคมแก้ว                    ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์
                    พระอุโบสถ  พระระเบียง  พระมณฑป  พระวิหาร  รวมทั้งธรรมาสน์  ศาลา  หอไตร  ลานวัด  แลดูสะอาดหมดจด  เสียงระฆังตีบอกเวลายามค่ำ  แสงสว่างจากโคมไฟ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น